5 ข้อความแตกต่าง ติ่งเกาหลีในวัยเรียน และวัยทำงาน
เราเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นติ่งมาค่อนชีวิต เมื่อพูดถึงการเป็นติ่งเกาหลี หลายคนอาจนึกถึงภาพของแฟนคลับที่นั่งดูซีรีส์เกาหลี หรือติดตามข่าวสารของศิลปิน K-Pop ที่พวกเขาชื่นชอบ แต่รู้ไหมคะว่าความรักที่มีต่อศิลปิน สามารถแตกต่างกันไปตามช่วงวัยได้อย่างไร? วันนี้เราอยากแชร์ประสบการณ์การเป็นติ่งเกาหลีในสองช่วงวัยที่แตกต่างกัน นั่นก็คือวัยเรียนและวัยทำงานค่ะ
1. เรื่องการจัดสรรเวลา
ในวัยเรียน เรามีเวลาว่างมากกว่าที่คิด ตื่นเช้ามาอาจจะฟังเพลงในห้องน้ำ อ่านข่าวสารในช่วงพักกลางวัน และตอนเย็นก็อาจจะมีเวลามานั่งดูไลฟ์สดกับเพื่อน ๆ การเฝ้ารอคอนเสิร์ตหรือรายการที่ศิลปินคนโปรดออกรายการก็เป็นเรื่องง่าย จะมาดูย้อนหลังก็ไม่มีปัญหา
พอโตมาวัยทำงานแล้ว เวลากลายเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจัดสรร เพราะชีวิตเราถูกขับเคลื่อนด้วยงาน เวลาว่างถูกแบ่งไปให้กับการพักผ่อนและภาระหน้าที่ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมที่เคยติดตามอย่างใกล้ชิดอาจจะต้องดูสรุปจากแฟนเพจแทน หรือต้องตามเก็บย้อนหลังเอาตอนเลิกงาน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่ได้ตามศิลปินที่เราชอบก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
2. เรื่องการใช้จ่าย
วัยเรียนหลายคนอาจใช้เงินจากค่าขนมหรือเงินที่ได้จากผู้ปกครองในการซื้อสินค้า อย่างอัลบั้ม โปสเตอร์ ฟิกเกอร์ หรือสินค้าอื่น ๆ การซื้อสินค้าอาจต้องรออัลบั้มที่อยากได้จริง ๆ หรือต้องออมเงินนานกว่าจะได้สิ่งที่หวังไว้ แต่การได้สะสมสิ่งของที่เกี่ยวกับศิลปินคนโปรดนั้นถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
เมื่อเข้าสู่วัยทำงานที่มีรายได้ประจำแล้ว งบในการซื้อสินค้าก็ขยับขึ้น แต่ก็ต้องจัดสรรเงินให้เหมาะสม การได้มีรายได้เองทำให้หลายคนสามารถซื้ออัลบั้มและสินค้าทางการได้มากขึ้นอย่างที่ต้องการ เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและการเก็บออมไปด้วย
3. ความสามารถในการเดินทางไปดูคอนเสิร์ตและแฟนมีตติ้ง
ด้วยความที่เราอยู่ต่างจังหวัด มักมีข้อจำกัดในการเดินทางไปชมคอนเสิร์ต ซึ่งแทบจะ 100% ที่จัดในกทม. นอกจากค่าใช้จ่ายสำหรับบัตรคอนเสิร์ต ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ที่พัก เป็นต้น และเรื่องคืออายุที่เด็กเกินไป ต้องอาศัยผู้ปกครองพาไป หรือบางครั้งต้องขออนุญาตให้พ่อแม่พาไปส่ง ซึ่งอาจจะทำให้หลายครั้งเราไม่ได้ไปงานที่อยากไปจริง ๆ
แต่เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน เราสามารถวางแผนและตัดสินใจเรื่องการเดินทางได้เอง ไม่ต้องพึ่งพาใคร แถมยังสามารถเลือกไปคอนเสิร์ตได้หลายที่ หลายครั้ง เพียงแต่ต้องจัดสรรวันหยุดและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม ซึ่งก็เป็นความอิสระที่เราหาไม่ได้ในวัยเรียน
4. ความแตกต่างในสังคม
ช่วงวัยเรียน การเป็นติ่งเกาหลีกับเพื่อน ๆ เป็นเรื่องสนุกที่สามารถคุยกันได้ทุกวัน มีเพื่อนร่วมห้องที่เป็นติ่งเหมือนกัน ทำให้การแลกเปลี่ยนข่าวสาร การซื้อขายของสะสม หรือการแบ่งปันเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับศิลปินเป็นเรื่องง่ายมาก
เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน การหาเพื่อนร่วมติ่งอาจจะเป็นเรื่องยากขึ้นเพราะการทำงานที่แตกต่างกันไป แต่วิธีการแชร์ประสบการณ์ก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย หลายคนใช้โซเชียลมีเดียในการตามติ่งและพูดคุยกับเพื่อนที่มีความชอบเหมือนกัน หรือหาเพื่อนใหม่ในกลุ่มออนไลน์ กลายเป็นชุมชนของคนที่มีใจรักเหมือนกันแม้จะทำงานหรืออยู่ในสถานที่ต่างกัน
5. แรงบันดาลใจและการสนับสนุน
วัยเรียนเป็นช่วงเวลาแห่งการค้นหาตัวเองและเริ่มสร้างความฝัน เราเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และมองหาความเป็นไปได้ในอนาคต หลายคนได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินคนโปรด เช่น การตั้งใจเรียนเพื่อมีโอกาสไปเรียนต่อที่ประเทศที่ศิลปินอาศัยอยู่ หรือการเริ่มฝึกทักษะที่ศิลปินของเราเก่ง เช่น การเต้น การร้องเพลง หรือการเล่นเครื่องดนตรี ศิลปินจึงเป็นเหมือนแบบอย่างที่ทำให้เราเห็นว่า “ถ้าเขาทำได้ เราก็ทำได้”
เมื่อเราเข้าสู่วัยทำงาน แรงบันดาลใจจากศิลปินอาจเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบที่ลึกซึ้งและมีความหมายยิ่งขึ้น ศิลปินอาจเป็นแรงผลักดันให้เรามีแรงฮึดในวันที่เหนื่อยล้า การได้เห็นศิลปินที่เราชื่นชอบทำงานหนักเพื่อแฟน ๆ ก็ช่วยให้เราอยากเป็นคนที่ทำงานหนักเพื่อคนที่เรารักเช่นกัน หลายคนใช้บทเพลงหรือคำพูดของศิลปินเป็นกำลังใจในการเผชิญกับความท้าทายหรือปัญหาที่เจอในที่ทำงาน
สรุป: การเป็นติ่งเกาหลีในวัยเรียนและวัยทำงานมีความแตกต่างกัน ความแตกต่างเหล่านี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตและความสามารถทางการเงินที่เกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความรักที่มีต่อศิลปินนี้ยังคงอยู่ในใจเราเสมอ แต่ไม่ว่าในวัยใด การเป็นแติ่งเกาหลีก็ยังคงเป็นแหล่งความสุขและแรงบันดาลใจให้เราได้อย่างดีเยี่ยม หากความสุขนี้ไม่ได้เบียดเบียนใคร หรือแม้กระทั่งเบียดเบียนตัวเราเอง ก็จงติ่งต่อไปอย่างมีความสุขกันเถอะค่ะ